อ่ะๆๆๆๆ อย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่า คำว่า “คุย” นี่ คือการคุยแบบเรื่อยเปื่อย คุยจ้อ คุยไปเรื่อย คำว่า “คุย” ที่ผมที่ปรากฏอยู่ในหนังสือ “อย่าเป็นคนเก่ง ที่คุยไม่เป็น” ซึ่งเขียนขึ้นมาโดยนักเขียนชาวอาทิตย์อุทัย ที่มีนามว่า “ยาซุดะ ทาดาซิ” นี้ มีความหมายว่า “คุยอย่างมีศิลปะที่จะทำให้คู่สนทนา เปิดใจ และไว้วางใจท่าน เพื่อเปิดทางไปสู่ประเด็นสำคัญใดๆ หรือ ผลลัพธ์ใดๆ ที่ท่านต้องการให้เกิดขึ้น หลังการสนทนานั้นจบลง” นี่คือ ความหมายของคำว่า “คุยเป็น” ในหนังสือ “อย่าเป็นคนเก่ง ที่คุยไม่เป็น” และเป็นหัวใจสำคัญสุดๆ ของหนังสือเล่มนี้เลยทีเดียวครับ {adbook1}

สิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟัง ในบทความสั้นของผมในวันนี้ ก็คือ "การตลาดยุคใหม่ ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก" จริงๆ แล้ว คำว่า "การให้" นี้ เป็นคำที่มีมาเนิ่นนานเคียงคู่อยู่กับการดำรงอยู่ของมนุษย์ขี้เหม็น เอ้ย มนุษย์ชาติเลยทีเดียว แต่มันกลับถูกมองว่าเป็นเรื่องใหม่ ในมิติของการตลาดในโลกยุคดิจิทัล เพราะอะไร "การตลาดยุคใหม่" จึงเน้นที่การให้ {adbook1}

หากท่านเป็นคอหนังแนวฮีโร่ สไตล์ ไฮเทค ผมคิดว่า ท่านต้องเคยดูภาพยนตร์เรื่อง “IRON Man” ซึ่งรับบท Rober Downy Jr. ดาราหนุ่มเจ้าบทบาท โดยในหนังเรื่องนี้ เขารับบทเป็น “Tony Stark” อภิมหาเศรษฐีอัจฉริยะแสนล้าน และที่เด็ดดวงที่สุด ก็คือ พ่อโทนี่ สตราคร์ เนี่ย ดันมี “Elon Musk” เป็น Idol ในดวงใจของเขา โดย Elon Musk ได้รับเชิญไปเป็นดาราประกอบฉากหนึ่ง ที่ Tony Stark เข้ามาพูดคุยกับ Elon Musk ในฐาน Idol ในดวงใจ นั่นคือ เรื่องราว ของ “Elon Musk” มหาเศรษฐีอันดับสองของโลก ที่ปรากฏในโลกภาพยนตร์ มาดูชีวิตจริงของเขากันบ้าง....ว่า อะไรทำให้ชายหนุ่มคนหนึ่ง ที่ไม่ได้คาบช้อนเงินช้อนทองมาตั้งแต่ท้องแม่ แต่กลับพลิกผัน นำพา ขับเคลื่อนตนเอง สู่การเป็น อภิมหาเศรษฐีอันดับสองของโลก ที่ตอนนี้ มีทรัพย์สินมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1.8 แสนล้านเหรียญสหรัฐ หรือ หากเอา 30 คูณเข้าไป ก็เท่ากับ 5.4 ล้านล้านบาทไทย {adbook1}

ใครกันแน่ ที่เป็นคนงี่เง่า คุณ หรือ คนรอบข้าง ผมเพิ่งอ่านหนังสือที่มีชื่อว่า “Surrounded by Idiots” หรือ “วิธีเอาตัวรอดในวงล้อมคนงี่เง่า” หนังสือเล่มนี้ เขียนโดย โธมัส เอริคสัน และเป็นหนังสือในระดับ International Best seller ที่ขายไปกว่า 1 ล้านเล่ม เฉพาะในประเทศสวีเดน และ 2.5 ล้านเล่มทั่วโลก แวบแรกที่เห็นหนังสือเล่มนี้ มันกระแทกกระทั้นกับต่อมความรู้สึกของผมอย่างแรง ด้วยประโยคที่เขียนไว้บนหน้าปกของหนังสือเล่มนี้ ประโยคนี้ ก็คือ คนเฮงซวยนานๆ อาจจะเจอที “คนงี่เง่า” นี่สิ เจอได้ทุกที่ ทุกเวลา รู้เขา เข้าใจ และรับมือให้ได้ ชีวิต และภารกิจใดๆ จะลื่นไหลไม่สะดุด โอ้ พระเจ้าจอร์จ แค่ประโยคนี้ ก็ทำให้หนอนหนังสืออย่างผม รีบเปิดหนังสือเล่มนี้ เพื่อไปขยี้เนื้อหาภายใน อย่างไม่รอช้าเลยทีเดียว {adbook1}

เราทุกคนต้องการความสำเร็จ อยากมีความก้าวหน้าในชีวิต มีความมั่งคั่ง มีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้คนรอบข้าง และ ความต้องการอื่นๆ อีกมากมาย แต่บางครั้งเราไม่กล้าเดินหน้าต่อเพราะกลัวที่จะไม่สำเร็จ หรือ ไม่อยากรู้สึกเสียใจจากประสบการณ์ความล้มเหลวในอดีต และเจ้าความล้มเหลวนี้ มามักจะมากระซิบข้างหูเราเสมอ ด้วยความกลัวนี้ มันทำให้เราย่ำเท้าอยู่กับสิ่งเดิมๆ...เมื่อเราไปยืนที่หน้ากระจก มันยิ่งตอกย้ำ...ความแย่ๆ ในชีวิต หากท่านมีอาการแบบนี้ ....โปรดหยุด และ พิจารณา 4 หลักคิด ต่อไปนี้ {adbook1}

มีชายคนหนึ่ง ที่มีความอหังการมาก อหังการมากพอ ที่กล้าประกาศก้องว่า “ฉันมีสมองเงินล้าน” ท่านอยากรู้ไหมว่า เขาเป็นใคร ชายอหังการผู้นี้ มีชื่อว่า “T Harv Eker” ผู้แต่งหนังสือที่มีชื่อว่า “Secrets of Millionaire Mind” ที่โด่งดังไปทั่วโลก T Harv Eker เปลี่ยนตัวเองจากคนถังแตก ให้กลายเป็นเศรษฐีร้อยล้านได้ในเวลาสองปีครึ่ง ด้วย Mindset เศรษฐี {adbook1}

ท่ามกลางอากาศโคตรร้อน แต่เธอก็ยังขายผลไม้ได้อย่างมีความสุข โอ้...ว้าวๆๆๆ มันคืออะไร หรือ???? เรื่องประหลาดใจนี้คืออะไร... เพื่อนๆ อยากรู้ไหม มาฟังกันเลยดีกว่า...รับรองมันเป็นเรื่องธรรมดา แต่จะสร้างแรงบันดาลใจให้เพื่อนๆ ได้ไม่มากก็น้อย {adbook1}

คุณรู้สึกถึงความสุข วันละหลายครั้ง แต่คุณให้เวลาดื่มด่ำกับความสุข เหล่านี้ หรือไม่ เช้านี้ ผมซื้อกาแฟม๊อคค่าเย็น หวานน้อย ที่ผมอนุญาตตัวเองให้ตนเองอาทิตย์ละไม่เกิน 3 แก้ว ทุกครั้งที่ผมซื้อ ผมก็จะดูดกาแฟม๊อคค่าเย็นเหล่านั้นอย่างเร็วสุดๆ และมันก็หมดในเวลาที่เร็วสุดๆ เช่นเดียวกัน แต่เช้าวันนี้ แตกต่างจากทุกเช้า... {adbook1}

ความลับสำคัญของหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่จะทำให้คนประสบความสำเร็จสุดๆ ในชีวิต ผมคิดว่าเพื่อนทุกท่านต้องใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป็น Desktop คอมพิวเตอร์ Notebook คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรือแม้กระทั่ง โทรศัพท์มือถือ เช่น Smart phone การแสดงผลข้อมูลของอุปกรณ์เหล่านี้ จะแสดงผลผ่านหน้าจอของมัน เพื่อนๆ อาจจะสงสัยว่า ผมเอามาบอกทำไม... {adbook1}