ฝึกจิต เพื่อ ล้างพิษในสมอง...แล้วชีวิตท่านจะมีความสุขมากกว่าความทุกข์ DETOX YOUR BRAIN

 20 เม.ย. 2564 14:55 น.    เข้าชม 1270    Managing Yourself
ฝึกจิต เพื่อ ล้างพิษในสมอง...แล้วชีวิตท่านจะมีความสุขมากกว่าความทุกข์ DETOX YOUR BRAIN

ไม่มากก็น้อย ในทุกๆ วัน เราต้องเจอกับ ความเครียด ความกังวล ความสับสน และความรู้สึกลบๆ มากมายหลากหลาย และแตกต่างกันไป ตามบริบทของแต่ละคน

โดยเฉพาะในช่วงนี้...ในช่วงโควิด...สิ่งที่กล่าวไปข้างต้นอาจจะมีมากกว่าปกติ

โดยธรรมชาติแล้ว กลไกของจิตใจของเรา ซึ่งประกอบไปด้วย จิตสำนึก และจิตใต้สำนึก จะช่วยปรับสมดุลให้กับจิตใจเรา ให้คืนกลับมาสู่สภาวะที่เป็นกลาง หรือ จิตธรรมชาติ หรือ จิตบริสุทธิ์

แต่จะปรับได้ดี ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล มากน้อยแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับ เราฝึกจิตของเราให้รับมือกับสิ่งเหล่านี้ หรือ ความรู้สึกเหล่านี้ ได้ดีแค่ไหน

เพราะอะไรมันจึงเป็นเช่นนั้น

เพราะโดยธรรมชาติแล้ว เมื่อคนเจอเหตุการณ์ หรือ ประสบการณ์ที่ไม่ดี หรือ ที่อาจจะส่งผลเสีย ผลร้ายกับตัวเรา 

สมองเรามันจะมีกลไกตอบสนอง หรือ ป้องกันตนเองจากเหตุการณ์เหล่านั้น ด้วยการสร้างความรู้สึกเครียด ความกังวล...นี่คือ เรื่องธรรมชาติมากๆ

หรือ พูดง่ายๆ คนเรามีแนวโน้มที่จะมองอะไรในแง่ร้าย มากกว่า มองอะไรในแง่บวก 

ผมเรียกกลไกการตอบสนองของสมองที่ต่อเหตุการณ์ลบๆ ว่า “สมองกำลังสร้างพิษ” ขึ้นในห้วงความคิดเรา

นี่คือ เหตุผลที่เราต้องเรียนรู้การย้อนกลับเข้าสู่โลกภายใน และ เรียนรู้วิธีการล้างพิษ เหล่านี้

อะไรคือการย้อนกลับเข้าสู่โลกภายใน และมันสำคัญอย่างไร

พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ว่า

“เราคือความคิดของเรา เราจะเป็นในสิ่งที่เราคิด เมื่อใดที่จิตบริสุทธิ์ ความสุข ความปิติจะตามมา ดุจดั่งเงาที่ตามติด”

คนเราส่วนใหญ่จะติดกับกับโลกภายนอก มากกว่า การหันกลับมามองโลกภายในของตนเอง ชีวิตคนเราส่วนใหญ่จึงวุ่นวาย สับสน 

การที่จะทำให้ชีวิตมีความสุข เราต้องหันมามองโลกภายในของเรา 

คำถาม คือ หันมามองโลกภายใน แล้วเราจะมองหาอะไรล่ะ

การมองมาในโลกภายในของเรา ก็คือ ใช้สติ มาเฝ้าดู มามอง ความคิด ความรู้สึก และอารมณ์ซึ่งเป็นปฏิกิริยาที่เกิดจากการรับรู้ สิ่งต่างๆ จากโลกรอบๆ ตัวเรา นั่นเอง

การที่เราตามทันความคิด ความรู้สึก อารมณ์ ได้ทัน จะทำให้เราสามารถตอบสนอง หรือ มีพฤติกรรมที่เกื้อกูลต่อการสร้างความสุขให้กับเรา

เมื่อเราฝึกสติ ให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ เราจะสามารถควบคุมโลกภายในของเราให้สงบนิ่ง ได้อย่างเหนือชั้น ไม่ว่าโลกภายนอกจะวุ่นวายสับสนอย่างไรก็ตาม และนำไปสู่การสร้างปัญญาในการฝ่าฟันปัญหาต่างๆ

นี่คือ ความสำคัญของการย้อนกลับเข้าสู่โลกภายใน หรือ การมีสติ และฝึกสติให้เข้มแข็ง

การติดกับดักโลกภายนอก ทำให้เราลืมวิธีการกลับสู่ความสุข หรือ การกลับสู่จิตดั้งเดิม

นี่คือ เหตุผลที่คนส่วนใหญ่ ต้องเจอกับความทุกข์ มากกว่า ความสุข

เราอยู่ไกลจากโลกภายในของเรามากเกินไป แต่อยู่ใกล้ชิดกับโลกภายนอกที่แสนจะวุ่นวายมากเกินไปนั่นเอง

ตอนเราเป็นเด็กเราจะอยู่ในโลกภายในของเรา มากกว่าโลกภายนอก เด็กๆ จึงหาความสุขได้ง่ายกว่าผู้ใหญ่

นี่คือ เทคนิคในการกลับสู่โลกภายใน

เทคนิคหนึ่ง คุย และถามตนเอง (Self Talking และ Self Questioning)

ตามให้ทัน อารมณ์ความรู้สึกของท่านเอง แล้วถามตัวท่านว่า เฮ้ย อะไรที่ทำให้กู รู้สึกอย่างนี้ฟ่ะ 

เมื่อรู้ต้นสายปลายเหตุแล้ว ก็ปรับจิตใจใหม่ คิดใหม่ ที่จะไม่ทำให้เกิดอารมณ์ความรู้สึกเหล่านั้น

พูดง่าย นี่คือ การประยุกต์ใช้อริยสัจ 4 ในการ Coaching ตัวเองนั่นเอง

การใช้สติ จะทำให้ท่านเท่าทันความรู้สึก ความคิด หรือ อารมณ์ ณ ปัจจุบัน นี่คือ อริยสัจ ข้อที่หนึ่ง คือ การเท่าทันความจริงแห่งทุกข์ หรือ ปัญหา

ต่อจากนั้นท่านจะถามตนเองว่า อะไรที่ทำให้เกิดความคิด ความรู้สึก และอารมณ์เหล่านั้น นี่คือ อริยสัจ ข้อที่สอง หรือ สมุทัย ความเข้าใจถึงข้อเท็จจริงที่ทำให้เกิดทุกข์ หรือ ปัญญา

เมื่อเข้าใจของเท็จจริงของทุกข์ และปัญหา ก็สามารถพัฒนาวิธีการดับทุกข์ หรือ แก้ไขปัญญา หรือ นิโรธ อริยสัจ ข้อที่สาม

เมื่อรู้วิธีแก้ปัญหา หรือ ดับทุกข์ ก็ลงมือทำให้เกิดมรรคผล หรือ อริยสัจ ข้อที่สาม หรือ มรรค นั่นเอง

คนเราส่วนใหญ่เมื่อเกิดอารมณ์ความรู้สึก มันจะตามไม่ทันอารมณ์ความรู้สึก แต่ปล่อยให้อารมณ์ความรู้สึกเหล่านั้นมาบ่งการชีวิต หรือ พฤติกรรมของตนเอง

หากหยุดคิดสักนิด แล้วถามตนเอง และทำแบบนี้บ่อย ท่านจะมีนิสัยที่จะคุย และถามตนเอง

เทคนิคสอง เลือก และลดการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร

แน่นอนที่สุด ข้อมูลข่าวสารเป็นเรื่องสำคัญ แต่หากเรารับข้อมูลข่าวสาร เยอะมาก เยอะเกินไป จนทำให้เราอารมณ์ความรู้สึก และชีวิตวุ่นวายสับสน มันก็เป็นสิ่งที่ไม่ดีต่อโลกภายในของเรา

ดังนั้นหากไม่อยากให้ตัวเราอยู่ห่างไกลจากความสุข เราก็ต้องเลือกเสพข้อมูลข่าวสาร 

ข้อมูลข่าวสารที่เราเลือกควรจะเป็นข้อมูลที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิต และ ลดปริมาณ ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้โลกภายในเราวุ่นวาย และห่างไกลจากความสุข

{ads_seminar}

เทคนิคที่สาม หยุดการย้ำคิดภาพความกังวล

คนเรามักจะชอบสร้างภาพลบๆ ให้เกิดขึ้นในสมอง ทั้งที่ความจริงมันยังไม่เกิดขึ้น

นอกจากชอบสร้างภาพเหล่านี้ แล้ว ยังชอบสร้างมันขึ้นมาบ่อยๆ อีกด้วย

เมื่อภาพเหล่านี้ เกิดขึ้นมาในสมอง ความกังวล ก็เกิดขึ้น

ดังนั้น เราต้องหยุดสร้างภาพลบๆ เหล่านี้ อย่างไรก็ตามฟังดูเหมือนง่ายๆ 

เพราะภาพลบๆ นี้ เกิดขึ้นจากจิตใต้สำนึกของเรา

ดังนั้นเราต้องหยุดการคิด ด้วยวิธีการปลูกฝังชุดความคิดแบบบวกๆ เพื่อให้จิตใต้สำนึกดึงภาพบวก ขึ้นมา แทนการดึงภาพลบๆ แบบที่คนทั่วไป เคยชิน

กล่าวคือ แทนที่จะ Focus ที่ปัญหา ก็ให้ Focus ที่ผลลัพธ์แทน

เทคนิคที่สี่ อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่บวกๆ

เมื่อใดที่เกิดความกังวล อย่าจมอยู่กับความรู้สึกนั้น แต่ให้เปลี่ยนบริบทรอบตัวเรา ให้เป็นบวก

เช่น ไปคุยกับเพื่อนที่มีทัศนคติดี หรือ ฟังเพลงที่ทำให้เรารู้สึกดี หรือ ดูหนัง ดูภาพยนตร์ที่ทำให้เรามีความสุข เป็นต้น

หรือหากเป็นไปได้ ให้ท่านทำสมาธิ เช่น การกำหนดลมหายใจ

เมื่อท่านทำอย่างนี้ บ่อย มันจะเกิดเป็นนิสัย และท่านจะอยู่ห่างไกลจากความเครียด ความกังวล

เอาล่ะ นี่คือ สี่เทคนิค ที่จะช่วย detox สมอง ที่สร้างความรู้สึกลบๆ ของท่าน ให้กลายเป็นบวก หรือ เป็นกลาง ซึ่งเป็นสภาวะจิตที่จะช่วยให้ท่านมีความสุขกับชีวิตมากขึ้น


Comment