ช่วงนี้เราก็อกสั่นขวัญแขวนไปกับสถานการณ์ covid ก็ขอให้ทุกท่านไปไหนมาไหนก็ป้องกันตัวเองนะครับ ใส่หน้ากากแล้วก็ Social distancing ก็ต้องเคร่งครัดเป็น 2 เท่าเพราะการระบาดครั้งที่ 2 นี้ดูท่าทางจะไม่ธรรมดา เพราะฉะนั้นวิธีการที่เราจะป้องกันตัวเองให้ดีที่สุดก็คือการไม่ประมาท

อย่าหยุดทำงาน

มาเริ่มต้นกันเลยในอย่าหยุดข้อแรก นั่นก็คือ อย่าหยุดทำงาน

ประเด็นก็คือการที่เราได้มีอะไรทำ การที่เราทำอะไรให้มีคุณค่าต่อตัวเรา ต่อสังคมรอบข้าง มันเป็นสิ่งที่ดี ไม่ว่าจะเป็นคนหนุ่ม คนสาว คนแก่ คนเฒ่า คนชราหรือว่าอะไรก็แล้วแต่  การที่เรามีงานทำ ได้ทำอะไรสักอย่างแล้วมันดีเสมอ ทำให้เรามีคุณค่า เรารู้สึกว่าเราได้ทำอะไรสักอย่าง

คนเราเมื่อรู้สึกมีคุณค่าเราก็จะมีความ Happy ที่จะมีชีวิต

แต่ก็ไม่ใช่ว่า ทำจนหักโหมร่างกายทรุดโทรม ทำที่พอดีพอประมาณ ให้เรารู้สึกว่าเรามีคุณค่าในตัวเรา มีคุณค่าในสังคม มีคุณค่าในสายตาคนรอบข้าง เราก็จะเป็นที่ต้องการ เป็นที่รักของคนรอบข้าง

อย่าหยุดออม

มาดูข้อ 2 ก็คือ อย่าหยุดออม นี่เป็นเรื่องการเงิน

ไม่ว่าจะออมด้วยวิธีไหนก็ต้องรู้จักออม ยกตัวอย่างเช่น ซื้อพันธบัตรรัฐบาล ซื้อหุ้น ฝากธนาคาร ออมผ่านการประกันชีวิต หรือจะซื้อทอง ซื้อที่ดิน

จงรีบออมนะตั้งแต่เนิ่นๆ อย่ารอพึ่งคนอื่นยามเดือดร้อน เพราะเขาก็มีภาระเหมือนกัน 

อย่าหยุดออม เพราะว่าเราไม่รู้หรอกว่าในอนาคต เราจะเจอกับอะไร

อย่าหยุดดูแลตนเอง

อย่าหยุดที่ 3 อย่าหยุดดูแลตัวเอง อันนี้สำคัญมาก

เมื่อยามที่เรายังหนุ่มยังสาวอยู่ ร่างกายมันแข็งแขรง มันจะไม่ออกอาการ แต่ว่ามันจะมาออกอาการตอนที่เราอายุขึ้นเลข 4 ขึ้นไป

อย่างผม ตอนนี้ 50 กว่าๆ อาการปวดเมื่อย เดี๋ยวเจ็บนั่นเจ็บนี่ เมื่อยล้ามันจะมาตามวัฏจักรมาตามเวลา 

วิธีการที่ผมแก้ปัญหาก็คือเราก็ต้องออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ 

ทำวันละนิดวันละหน่อยนะ วันละ 30 นาทีแต่ทำทุกวันนะก็จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง โรคภัยมันก็จะอยู่ห่างไกลจากเรา 

แล้วโดยเฉพาะในช่วงนี้ ในสถานการณ์ Covid การทำให้ร่างกายแข็งแรง ร่างกายสามารถที่จะต่อสู้กับเชื้อโรคต่างๆ 

จงหล่อตามวัยหรือว่าจงสวยตามวัยนะใส่ใจตัวเองเสมออย่าได้ปล่อยตัวเองโทรม อันนี้สำคัญมาก

อย่าหยุดฉลาด

ข้อที่ 4 อย่าหยุดฉลาด ฟังดีๆ ไม่ใช่ว่าการอวดฉลาดนะ 

อย่าหยุดฉลาดในที่นี้ ก็คือ จงอย่าหยุดอ่านเขียน เรียนรู้ พยายามหาความรู้ใหม่ๆ ทุกวัน 

ถ้าเกิดใครอวดฉลาดเนี่ยก็จะโง่ทันที เพราะว่าคนที่อวดฉลาดก็จะหยุดการเรียนรู้ เพราะฉะนั้นจงอย่าหยุดฉลาด คือจงอย่าหยุดเรียนรู้ครับ 

อ่านหนังสือดีๆ สักวันละนิดวันละหน่อย แล้วก็เขียนจดบันทึก มีอะไรก็จดบันทึก การจดบันทึกจะทำให้เราจำได้ดีมากกว่าการที่เราดูเฉยๆ

อย่าหยุดหาเงิน

อันดับที่ 5 คือ อย่าหยุดหาเงิน 

แน่นอนครับ เราอยู่ในโลกทุนนิยม การที่เราจะได้สิ่งต่างๆ มา การกินการใช้การดำรงชีวิตปัจจัย 5 ปัจจัย 6 ไม่มีใครให้เราฟรีๆ ครับ เราต้องแลกมาด้วยเงินตรา 

เงินที่เป็นเครื่องมือในการแลกเปลี่ยน เป็นเครื่องมือในการใช้ชีวิต เราก็ต้องหาเงินให้มาหล่อเลี้ยงชีวิตเรา

พยายามให้มีประตูมากกว่า 1 บาน ประตูมากกว่า 1 บาน หมายถึง เราต้องมีอย่างน้อย 2 แหล่งรายได้

อย่าหยุดคบเพื่อน

มาดูข้อที่ 7 อย่าหยุดคบเพื่อน โดยเฉพาะเพื่อนเก่าที่ดีๆ

จงพยายามหาเวลาไปพบปะสังสรรค์กับเพื่อน ได้พูดคุยรำลึกความหลัง จะทำให้เราไม่พลาดความประทับใจของความสุขบางเรื่องไป 

เวลาเราตกทุกข์ได้ยาก เราก็มีเพื่อนไว้ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เราเองก็ต้องช่วยเพื่อนด้วย เพื่อนก็ช่วยเราแลกเปลี่ยนกันช่วยเหลือเกื้อกูลกันไป

อย่าหยุดหาของอร่อย

อย่าหยุดข้อที่ 8 หาของอร่อยกินอันนี้ผมชอบมาก 

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ตะบี้ตะบันกินทุกอย่างที่ขวางหน้า แต่ว่าต้องกินที่มันพอเหมาะสม 

จงกินของอร่อยอย่างมีสติ กินตามเหมาะสม มีความสุขได้ตลอดแล้วก็ไม่ทำลายสุขภาพ

อย่าหยุดออกกำลังกาย

อย่าหยุดอันดับที่ 9 คือการออกกำลังกาย 

จิตใจที่ดีจะอยู่ในร่างกายที่แข็งแรง จิตใจกับร่างกายมีความสัมพันธ์กัน ร่างกายแข็งแรง ร่างกายสดชื่น จิตใจมันก็จะสดชื่นไปด้วย 

ถ้าเกิดจิตใจเราเข้มแข็งร่างกายเราก็จะเข้มแข็งไปด้วย 

เราต้องออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง องอาจ ผึ่งผายอยู่เสมอ

ร่างกายที่แข็งแรง  องอาจ ผึ่งผายก็ทำให้จิตใจแข็งแรง องอาจ ผึ่งผายไปด้วย

อย่าหยุดรักตัวเอง

มาดูอย่าหยุดข้อที่ 10 อย่าหยุดรักตัวเอง 

พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ว่า ถ้าเกิดเราไม่รักตัวเองเราก็รักคนอื่นไม่ได้ 

พอเรารักตัวเอง เราก็จะใส่ใจตัวเอง  เรารักร่างกายของเรา เราก็ต้องรักษาร่างกายของเรา ใส่ใจตัวเองในทุกเรื่อง 

เพราะผลของการใส่ใจตัวเองก็จะทำให้เราดูดีในทุกเวลา ทุกอริยาบท 

เมื่อเรารู้จักรักตัวเองเราก็จะรู้จักรักคนอื่น มันก็จะเป็นการกระจายพลังความรัก พลังความสุขก็ไปสู่ผู้คน 

และแน่นอน พลังแห่งความสุขนั้นจะสะท้อนกลับมาที่ตัวเราเช่นกัน

อย่าหยุดกตัญญู

ข้อที่ 11 อย่าหยุดกตัญญู 

คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตมักเป็นคนกตัญญู รู้คุณคน 

อันนี้ผมฟันธงคอนเฟิร์ม เพราะว่าเป็นสิ่งที่ผมประสบด้วยตัวเอง

{ads_seminar}

ผมดูแลแม่ จนกระทั่งแม่ถึงวาระสุดท้าย ผมดูแลเป็นอย่างดี 

ซื้อบ้านให้แม่อยู่ เพราะแต่ก่อนสมัยเด็กๆ ไม่มีบ้านอยู่

พอมีเงินก็ซื้อบ้านให้แม่ ก็อยากให้แม่อยู่อย่างสบาย พาแม่ไปเที่ยว หรือทำอะไรที่ทำให้แม่มีความสุขได้ 

ชีวิตเราก็มีแต่สิ่งที่ดีๆ และท่านเชื่อไหมครับเวลาที่เราเจอปัญหาเจอวิกฤตอะไรนะ มันจะมีคนมาช่วยมีสิ่งอะไรมาช่วยเราเสมอ ถ้าเกิดเราเป็นคนที่กตัญญูรู้คุณ มันจะเป็นพลังบุญที่ช่วยให้เราพบแต่สิ่งที่ช่วยเหลือเกื้อกูลเราในยามลำบาก

อย่าหยุดทำบุญสร้างกศุล

อย่าหยุดข้อที่ 12 อย่าหยุดทำบุญสร้างกุศล

เพราะการทำบุญ จะทำให้จิตใจเราผ่องแผ้วเบิกบาน และส่งผลให้เรามีความสุขมาจากข้างในอันเป็นความสุขที่แท้จริงของชีวิต 

คนส่วนใหญ่เวลาทำบุญน่ะ ทำบุญเพราะหวัง เช่น หวังจะถูกล็อตเตอรี่ หวังความร่ำรวยมั่งคั่ง 

ถามว่ามันผิดไหม มันไม่ผิดหรอก

แต่ตามหลักพุทธศาสนา การที่เราทำบุญมันก็คือการฝึกการเสียสละ ฝึกการละกิเลส 

การที่เราทำบุญ สิ่งแรกที่เราได้ คือ ความสุขที่เกิดจากการให้

สาระสำคัญของการทำบุญ ก็คือการให้ เมื่อให้แล้วก็มีความสุข แล้วคนที่เขารับ เขาจะตอบแทนเราเองโดยธรรมชาติ มันเป็นกฎของธรรมชาติ

อย่าหยุดทำในสิ่งที่ชอบ

ข้อสุดท้าย อย่าหยุดทำในสิ่งที่ชอบ 

ข้อนี้สำคัญที่สุด คนเราเกิดมาในโลกนี้ คือ ทำในสิ่งที่ตัวเองมีความสุข นี่คือวัตถุประสงค์ของการมีชีวิต 

และสิ่งที่เราทำ ก็คือสิ่งที่เราทำแล้วมีความสุขมากที่สุด คือสิ่งที่เราชอบ สิ่งที่เป็นตัวเรา สิ่งที่เป็น passion อะไรที่เราทำแล้วมีความสุขไม่เดือดร้อนชาวบ้าน ขอให้ท่านจงทำไปเถอะครับ ท่านก็จะ Happy ตลอดเวลา

เมื่อท่านทำสิ่งที่ท่านชอบ ท่านจะไม่รู้สึกเหนื่อย ท่านทำได้ทั้งวันทั้งคืน 

เพราะฉะนั้นท่านจงหา passion ให้เจอ แล้วทำในสิ่งที่เป็น passion ของท่าน แล้วท่านจะมีความสุขทุกวัน 

ตื่นมาก็มีความสุข ทำงานก็มีความสุข นอนหลับก็มีความสุข สุขตลอด 24 ชั่วโมง 

โอเค ก็อาจจะมีทุกข์บ้างในการเกิดเป็นคน แต่ถ้าท่านได้ทำในสิ่งที่ท่านชอบ ทำในสิ่งที่เป็น passion

และถ้าเกิดสิ่งที่ต้องทำมันสามารถสร้างรายได้ด้วย มันยิ่งสุดยอดอลังการงานสร้างเลย

อย่าหยุดทำสิ่งที่ชอบ เพราะเราไม่รู้จะทำได้อีกนานถึงเมื่อไหร่ เมื่อมีโอกาสทำได้ก็รีบทำเสีย 

นี่คือ อย่าหยุดทำ 13 ข้อ หากจำไม่ได้ขอให้ท่านอ่านซ้ำ หรือ อาจจะจดลงกระดาษ เพื่อบันทึก memory เข้าไปในจิตใต้สำนึก หากท่านสามารถประยุกต์ 13 อย่าหยุดที่ผมเล่าให้ฟังได้ ชีวิตท่านจะมีแต่ความสุข