คนทุกที่ยังมีชีวิต มีลมหายใจ ย่อมมีความต้องการให้ความสิ่งที่ตนเองต้องการนั้นเป็นจริง ตามที่คิด ไม่ว่าความต้องการนั้นจะเป็นอะไรก็ตาม

คนที่ไม่ต้องการอะไรเลย คงมีแต่คนที่หมดลมหายใจไปแล้ว

มีผู้คนจำนวนมาก ที่เรียนรู้วิธีการแปลงความต้องการ หรือ การเสก ความต้องการนั้นให้เป็นจริง

อย่างไรก็ตามยังมีความเข้าใจผิดในเรื่องนี้ อยู่มาก และความเข้าใจผิดนี้ ทำให้ผู้คนไม่สามารถเปลี่ยนความต้องการเหล่านั้นให้เป็นความจริงได้

เรามาทำความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการเปลี่ยนความต้องการให้เป็นจริง กันดีกว่า

ความเชื่อเกี่ยวกับการเปลี่ยน หรือ เสกความต้องการให้เป็นจริง

ในช่วงสองสามทศวรรษที่ผ่าน มีความคิดกระแสหลักเกี่ยวกับการเปลี่ยน หรือ เสกให้ความต้องการให้เป็นจริง ที่กล่าวไว้ว่า

“หากเราต้องการสิ่งใด เราเพียงแต่จินตนาการ สร้างความรู้สึกว่าเราได้รับมันแล้ว หรือ กำลังได้รับมัน ต่อจากนั้นเป็นหน้าที่ของจักรวาลที่จะจัดสรรสิ่งนี้มาให้เรา” หรือ ที่เรียกกันว่า “กฎแรงดึงดูด”

ถามว่า จักรวาลจัดสรร ให้หรือไม่....

คำตอบมีได้ 2 คำตอบ

คำตอบแรก คือ ไม่จริง หากเรารอให้จักรวาลที่อยู่ภายนอกตัวเรา มาจัดสรรให้เรา โดยที่เราเพียงแต่นั่งรอ

หากเป็นเฉกเช่นนี้ ในโลกนี้ จะมีแต่คนที่ประสบความสำเร็จ จะมีแต่คนสมหวัง

แต่ในความเป็นจริง ในโลกนี้ มีทั้งคนที่ประสบความสำเร็จ และ คนที่ล้มเหลว

ทั้งๆ ที่คนสองคนนี้ ต่างก็ขอให้จักรวาลที่อยู่นอกตัวเราจัดสรรให้เหมือนกัน แต่ทำไม คนหนึ่งได้ และ อีกคนไม่ได้

คำตอบที่สอง คือ จริง จักรวาลจัดสรรให้เรา แต่จักรวาลนี้ ไม่ใช่จักรวาลที่อยู่ภายนอกตัวเรา แต่เป็นจักรวาลที่อยู่ในตัวเรา ที่จัดสรรให้เรา ภายใต้การลงมือทำของเรา เพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามความคิดที่ฝัน ความคิดที่จินตนาการ และ ความต้องการที่จะได้รับสิ่งนั้นอย่างแรงกล้า

สำหรับผม ผมเลือกคำตอบที่สอง เพราะผมเชื่อในกฎแรงดึงดูด ผมเชื่อในจักรวาลจัดสรร แต่เป็นจักรวาลที่อยู่ภายในจิตสำนึก และ จิตใต้สำนึก ของผม ที่คอยย้ำเตือนให้ผมลงมือทำ เพื่อให้ความจริงในสมอง กลายเป็นความจริงในโลกแห่งความเป็นจริง

แน่นอนชีวิตของผม เกี่ยวพันกับการเปลี่ยนความต้องการให้เป็นความจริงมาทั้งชีวิต และผมใช้แนวทางตามคำตอบที่สองเป็นเครื่องมือเปลี่ยนความต้องการที่จะมีอิสรภาพทางเวลา และอิสรภาพทางการเงิน ให้เป็นจริง

ผมได้สรุปเป็นขั้นตอนง่ายๆ 3 ขั้นตอน ที่จะช่วยให้ท่านเปลี่ยน หรือ เสก ความต้องการให้เป็นจริงได้ ดังนี้

ขั้นตอนที่ หนึ่ง กำหนดความตั้งใจให้ชัดเจน

หากคนๆ หนึ่ง ต้องการที่จะทำให้สิ่งใด สิ่งหนึ่ง ให้เกิดขึ้นในชีวิต อันดับแรกที่ต้องทำให้เกิดขึ้น ก็คือ “ความตั้งใจ” ที่จะให้สิ่งนั้นๆ เกิดขึ้น

ถ้าปราศจากซึ่ง “ความตั้งใจ” ที่จะทำให้สิ่งนั้นๆ เกิดขึ้น...มันก็จะไม่มีสิ่งนั้นเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

“ความตั้งใจ” ถือว่า เป็นสิ่งสำคัญโคตรๆ หากท่านต้องการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งให้เป็นจริง

และผมขอบอกเลยว่า เรื่องนี้แหละ ที่เป็นจุดผิดพลาดแรกเลย ที่คนส่วนใหญ่มองข้าม และทำให้ความต้องการของคนๆ นั้น ไม่บรรลุผล เนื่องจากความตั้งใจเราไม่ชัดเจนเพียงพอ

เมื่อ “ภาพความตั้งใจ” ที่ถูกกำหนดขึ้นมาไม่ชัดเจน มันจะทำให้เรากำหนดทิศทาง หรือ วิธีการที่เราจะพาตัวเราไปสู่จุดนั้น ได้ไม่ชัดเจน 

เมื่อไม่ชัดเจน เราอาจจะหลงทาง หรือ ไปผิดทางได้ หรือ บางครั้ง หากเจออุปสรรค เราอาจจะท้อทอย ท้อแท้ แล้วเลิกรา กลับหลังหัน ได้ง่ายๆ

ดังนั้น หากเราต้องการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งให้เป็นจริง เราต้องกำหนดความตั้งใจให้ชัดเจน

คำถาม คือ ชัดเจน แค่ไหน....

คำตอบ ก็คือ ต้องชัดเจนในแบบที่ว่า เรารู้สึก หรือ สัมผัส ถึง ความสำเร็จ 

แบบว่า พอนึกถึง “ความตั้งใจ” นี้แล้ว มันจะทำให้เรารู้สึกอิน เหมือนกับเรากำลังดูหนังเรื่องที่เราชอบ และเราอินกับบทบาท หรือ ฉากใดฉากหนึ่ง ที่เราชอบ อะไรประมาณนั้น

หรือแบบว่า ทำให้เรารู้สึกเหมือนใน ไฟแห่งความมุ่งมั่น ลุกโชนอยู่ในตัวเรา ยังไงยังงั้นเลย

ความตั้งใจ ที่อยู่ในรูป “ภาพแห่งความสำเร็จ” เปรียบได้ดัง รถ “เฟอร์ร่ารี่” ที่จะพาท่านไปสู่จุดหมายของท่าน

ตอนนี้ ท่านลองถามตัวเองซิว่า ท่านมีภาพ “เฟอร์ร่ารี่” ที่ชัดเจนของท่านหรือยัง

ขั้นตอนที่ สอง จินตนาการให้เห็นภาพแห่งความตั้งใจนั้นบ่อยๆ

ถ้าท่านสามารถกำหนด “ความตั้งใจ” ที่เมื่อนึกถึงทีไร ไฟแห่งความตั้งใจ มันลุกโชนในใจ ได้แล้ว

ก็ถือว่าท่านได้เริ่มสตารท์ รถ “เฟอร์รารี่” ของท่านแล้ว

และ “เฟอร์ร่ารี่ นี้แหละ จะพาท่านไปสู่ปลายทางฝั่งฝันของท่านได้

แต่ท่านต้องระลึกไว้เสมอว่า ถึงแม้ว่า ท่านจะได้สร้าง “ความตั้งใจแบบสุดๆ” หรือ “ความตั้งใจ Version เฟอร์ร่ารี่” ของท่านได้แล้ว “เฟอร์ร่ารี่” คันนี้ ก็ต้องมีเชื้อเพลิง มาเติมให้กับมันอย่างต่อเนื่อง

เชื้อเพลิง ที่พูดถึง ก็คือ “การจินตนาการ” หรือ การนึกถึงภาพ “ความตั้งใจ” หรือ “ภาพแห่งความสำเร็จ” นั้นบ่อยๆ...คล้ายๆ กับ ท่านต้องเหยียบคันเร่ง “เฟอร์ร่ารี่” ของท่าน เพื่อให้มันพุ่งทะยานไปในเส้นทางของมัน

และ “การจินตนาการ” นี้ จริงๆ แล้ว คือ การตอกย้ำ ภาพเหล่านี้ ลงไปในจิตใต้สำนึกของท่าน

เมื่อถูกตอกย้ำบ่อยๆ ภาพนี้ มันจะถูกส่งมาสู่การรับรู้ของเราบ่อยๆ หรือ พูดง่ายๆ ว่า จิตใต้สำนึกจะช่วยเหยียบคันเร่ง “เฟอร์ร่ารี่” ของท่าน ทำให้ท่านเดินหน้าสู่เป้าหมายได้อย่างสุดๆ เลย

{ads_seminar}

ขั้นตอนที่ สาม ลงมือทำ

เมื่อภาพ “เฟอร์ร่ารี่” ของท่านชัดแจ๋ว และพร้อมทะยานไปสู่เส้นชัย และท่านใช้การจินตนาการถึงภาพ “เฟอร์ร่ารี่” นี้ ดุจดั่งท่านเหยียบคันเร่ง ดังนั้นจึงไม่มีอะไรมาหยุด “เฟอร์ร่ารี่” ของท่านได้

แต่ถ้าท่านไม่เข้าเกียร์ ให้ “เฟอร์ร่ารี่” ของท่าน ออกวิ่ง.....

ภาพที่ชัดแจ๋ว และไฟลุกโชนที่ถูกตอกย้ำ จะมีค่าเท่าศูนย์

ดังนั้น ขั้นตอนสุดท้ายในการเสกทุกจริง ให้เป็นจริง ก็คือ การเข้าเกียร์ และเหยียบคันเร่ง “เฟอร์ร่ารี่” ของท่าน...เพื่อให้ “เฟอร์ร่ารี่” ของท่าน วิ่งทะยานสู่เป้าหมาย

มีผู้คนมากมาย ที่เข้าใจผิด ภายใต้ความเชื่อ ที่ว่า เพียงแค่ “กำหนดความตั้งใจ” และ ตอกย้ำด้วย การจินตนาการสิ่งนั้น แล้ว สิ่งที่ต้องการจะถูกดูดเข้ามาในชีวิต

แต่ผมขอต้องอภัย หากท่านคิดแบบนี้ “เฟอร์ร่ารี่” ของท่านจะเปรียบเสมือน “รถยนต์ที่เครื่องแรง แต่เอาแต่เหยียบคันเร่ง โดยที่ไม่ยอมเข้าเกียร์”

ดังนั้น “เฟอร์ร่ารี่” ของท่าน มันจะไม่เคลื่อนที่ไปไหน

ใช่เลย ผมกำลังบอกว่า สุดท้ายท่านต้องลงมือทำ หรือ เข้าเกียร์ แล้วเหยียบคันเร่งให้มิด

แล้วในที่สุด “เฟอร์ร่ารี่” นี่จะพาท่านไปสู่เป้าหมายปลายทางได้อย่างแน่นอน

ลองถามตัวท่านซิว่า หากท่านต้องการที่จะทำอะไรสิ่งใดสิ่งหนี่งให้เกิดขึ้นจริงๆ ในชีวิตของท่าน ท่านได้ทำตาม 3 ขั้นตอนที่ผมเล่าให้ฟังข้างบน หรือ ยัง

ถ้าหากท่านทำ 3 สิ่งนี้ จนเป็นนิสัย ผมขอแสดงความยินดีกับท่านล่วงหน้า ในฐานะที่ท่านคือ “ยอดนักเสกความคิดให้เป็นความจริง” ตัวจริงเสียงจริง เลยทีเดียว