6 บทเรียน เอาชนะความกลัวที่ขวางทางไปสู่ความสำเร็จของคุณ

 09 พ.ย. 2563 14:47 น.    เข้าชม 1486    Managing Yourself
6 บทเรียน เอาชนะความกลัวที่ขวางทางไปสู่ความสำเร็จของคุณ

ชีวิตคนเราทุกคน ต้องเจอทั้งสิ่งที่ดี และ สิ่งที่ไม่ดี

แน่นอนสิ่งที่ดี มันจะมอบสิ่งที่ดีให้กับชีวิต และ สิ่งที่ไม่ดี...มันก็มอบสิ่งดีๆ ให้กับชีวิตเช่นเดียวกัน

ฟังแล้วท่านอาจจะงง....และนี่แหละคือความแตกต่างระหว่างคนที่ประสบผลสำเร็จ และไม่ประสบผลสำเร็จ

คนที่ประสบผลสำเร็จ เมื่อประสบกับสิ่งที่ไม่ดี เขาจะเรียนรู้จากสิ่งนั้น การเรียนรู้จะทำให้ชีวิตเขาดีขึ้น จากการประสบกับสิ่งที่ไม่ดี

แต่คนที่ไม่ประสบผลสำเร็จ แทนที่จะเรียนรู้ จากประสบการณ์นั้น ในทางตรงกันข้าม จะตีโพยตีพาย ว่าทำไม ตนเองเจอแต่สิ่งแบบนี้...

ความแตกต่างระหว่างคนสองคนนี้ ก็คือ คนที่ประสบผลสำเร็จ จะเรียนรู้ที่จะจัดการกับอารมณ์ที่จะทำให้เราตีโพยตีพาย หรือ เจ้าตัวร้ายในตัวเรา และเอาชนะมัน แต่คนที่ไม่ประสบผลสำเร็จ จะถูกครอบงำด้วยเจ้าตัวร้าย และพาชีวิตให้เสียโอกาสจากการเรียนรู้

วันนี้ ผมขอแนะนำ 6 บทเรียน เอาชนะเจ้าตัวร้าย ที่สร้างความกลัว ในตัวคุณ

บทเรียนที่ 1 อย่าวิ่งหนีความกลัว แต่จงวิ่งเข้าใส่มัน

เมื่อเราเจอกับปัญหาอุปสรรค เจ้าตัวร้ายในตัวคุณ จะสร้างกลัวให้เกิดขึ้นในใจคุณ เมื่อเราเกิดความรู้สึกกลัว ขึ้น แน่นอนมันเป็นเรื่องธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นกับคนทุกคน

เรามีทางเลือก สองทางเลือก ในการจัดการกับความกลัว นี้

ทางเลือกที่หนึ่ง ก็คือ ยอมแพ้ต่อความกลัว และไม่เดินทางลุยอุปสรรค หรือ ปัญหาที่กำลังประสบอยู่

ทางเลือกที่สอง ก็คือ กลัว แต่ไม่หันหลังให้มัน แต่ในทางตรงกันข้าม เดินหน้าสู่มัน และลุยแก้ปัญหา ขจัดอุปสรรค

คนที่กล้าเผชิญหน้ากับความกลัว จะเห็นโอกาสในการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ในชีวิต ยิ่งความกลัวมาก ยิ่งโอกาสมาก

ดัง คำพูดที่ว่า “High Risk High Return..Low Risk Low Return”

นโปเลียน ฮิลล์ กล่าวไว้ว่า “ความกลัว ไม่มีอะไรเลย มันเป็นเพียงสภาวะจิตที่เราสร้างขึ้นมา”

บทเรียนที่ 2 จงเชื่อ และศรัทธาตัวท่าน

คนส่วนใหญ่ มีชีวิตสองรูปแบบ รูปแบบที่หนึ่ง คือ การมีชีวิตในแบบที่เราเป็นอยู่ในปัจจุบัน และ อีกรูปแบบหนึ่ง ก็คือ การมีชีวิตในรูปแบบที่เราต้องการจะเป็น

การมีชีวิตในรูปแบบที่เราเป็นอยู่ในปัจจุบัน อาจจะไม่ใช่รูปแบบที่เราต้องการ แต่เราไม่กล้าพอที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเรา ไปสู่รูปแบบที่เราต้องการ ดังนั้นจึงจำยอมที่จะใช้ชีวิตในแบบที่สังคมกำหนดให้เราต้องเป็น

ถ้าหากท่าน เป็นดังที่กล่าวไปข้างตน นั่นคือ ท่านจำยอมใช้ชีวิตในแบบที่ไม่ใช่ตัวท่าน เพราะเจ้าตัวร้ายในตัวท่าน บอกว่า ท่านไม่สามารถใช้ชีวิตในแบบที่ท่านต้องการได้

ท่านน่าจะรู้จัก เซอร์ ริชาร์ด แบรนด์สัน มหาเศรษฐีเจ้าของ Virgin

หาก เซอร์ริชาร์ด ไม่กล้า ไม่ตัดสิน ที่จะใช้ชีวิต ตามความเชื่อ หรือ ความศรัทธาของเขา ทุกวันนี้ คงไม่มีใครรู้จัก เซอร์ริชารด์ แบรนด์สัน เจ้าของ Virgin

แน่นอนท่านต้องรู้จัก เจเค โรลลิ่ง นักเขียนชื่อก้องโลก เจ้าของผลงาน แฮร์รี่ พอตเตอร์ ที่ร่ำรวยมหาศาล จากหนังสือที่เธอเขียน และถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ที่คนทั่วโลกดูกัน

หาก เจเค โรลลิ่ง ยอมแพ้ ไม่พยายามนำเสนองานเขียนให้กับ สำนักพิมพ์ นับเป็นสิบๆ ครั้ง วันนี้ คงไม่มีใครรู้จัก หนุ่นน้อย “หน้าผากสายฟ้าฟาด” นามว่า “แฮร์รี่ พอตเตอร์”

บทเรียนที่ 3 ไม่มีที่ว่างสำหรับ มือสมัครเล่น

เวลาจะทำอะไร อย่าทำแบบเล่นๆ หรือ ขอไปที แต่ว่าจะทำอะไร ทั้งที จะต้องเรียนรู้ และทำให้ได้อย่างมืออาชีพ

การเป็นมืออาชีพ แน่นอนถ้าเป็นแล้ว มันต้องดีแน่นอน แต่การก้าวสู่การเป็นมืออาชีพ มันต้องทุ่มเท ต้องตอกย้ำ มุ่งมั่น ทำอะไรให้เป็นกิจจะลักษณะ และพัฒนาทักษะตนเองอย่างต่อเนื่อง

รวมไปถึงการเรียนรู้ จะทำงานร่วมกับผู้อื่นๆ

บทเรียนที่ 4 จงอย่าเสียเวลาแม้แต่วินาทีเดียว ที่จะเลือกในสิ่งที่แตกต่าง

เมื่อเผชิญกับความกลัว ซึ่งนำมาสู่ความละล้า ละลัง ในการตัดสินว่าจะเลือกอะไร

ยิ่งเราใช้เวลา หรือ เสียเวลาไปกับความละล้า ละลัง อันเนื่องจากมาจากเสียงกระซิบ ของเจ้าตัวร้ายในตัวคุณ ที่สร้างภาพแห่งความหวาดกลัว เราก็ยิ่งเสียโอกาสดีๆ ไปมากเท่านั้น

ดังนั้นจงวิ่งเข้าใส่ มัน แต่ตัดสินใจเลือกในสิ่งที่สร้างความแตกต่างในชีวิตของท่าน

บทเรียนที่ 5 ระดับความกลัว มีค่าเท่ากับ ระดับความสำเร็จ

สมการแห่งความสำเร็จที่น่าสนใจมาก ที่ผมจะบอกให้ทราบต่อไปนี้ ก็คือ

ระดับความสำเร็จ มีค่าเท่ากับ ระดับความกลัว

ฟังแล้ว ท่านอาจจะงงๆ ...อย่าเพิ่งงง เดี๋ยวผมจะอธิบายให้ฟัง ดังนี้

{ads_seminar}

เมื่อท่านตั้งเป้าหมายที่จะทำอะไรให้ประสบผลสำเร็จ ถ้าเป็นเป้าหมายเล็กๆ หรือ เป็นเรื่องที่ไม่ยากนักที่จะทำให้บรรลุผล....ท่านอาจจะไม่รู้สึกกลัว อะไรเลย แต่อาจจะรู้สึก ชิลๆ แบบว่า “หมูมากเรื่องแค่นี้”

คราวนี้ ท่านลองตั้งเป้าหมายที่จะทำอะไรสักอย่างหนี่ง ที่ท่านคิดว่า มันยากมาก....

สิ่งที่ตามมาก็คือ ความรู้สึกกลัวจะเพิ่มมากขึ้น ตามระดับความยากของสิ่งที่ท่านจะทำ หรือ เป้าหมายยากๆ ที่ท่านตั้งไว้

และนี่คือ เหตุผลที่ผมบอกว่า ระดับความกลัว มีค่า เท่ากับ ระดับความสำเร็จ

นั่นหมายความ ถ้าท่านวิ่งเข้าใส่ความกลัว แล้วมุ่งมั่นฝ่าฟันปัญหาอุปสรรค ในการไปสู่เป้าหมาย อย่างมืออาชีพ ในที่สุด ท่านจะได้รับความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ เทียบเท่า ระดับความกลัว ที่เกิดขึ้นในใจท่าน นั่นเอง

ดังนั้น เมื่อใดที่ท่านรู้สึกกลัวสุดๆ ที่จะทำสิ่งใด สิ่งหนึ่ง ให้ท่านรับทราบไว้เลยว่า ท่านกำลังก้าวไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่

แต่ท่านจะได้สู่จุดนั้นได้หรือไม่...ขึ้นอยู่กับว่า ท่านเลือกแบบใด ยอมแพ้ความกลัว หรือ วิ่งใส่ความกลัว

บทเรียนที่ 6 หากตัดสินใจแล้ว ต้องเดินหน้าเลย...อย่าผัดวันประกันพรุ่ง

ถึงแม้ว่าในบางครั้งท่านจะตัดสินว่าจะทำ...แต่เจ้าตัวร้ายในตัวคุณ ก็จะมาคอยยุแยงตะแคงรั่วท่านเสมอว่า

คิดดีแล้วเหรอ...ทำไม่สำเร็จหรอก...ฉันมันไม่ได้เรื่อง....

ทีนี้ แหละ คุณจะยึกยัก ยึกยัก ผัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อยๆ

ยิ่งคุณผัดวันประกันพรุ่งมากเท่าไหร่ โอกาสแห่งความสำเร็จก็จะลดน้อยลงเท่านั้น

ความสำเร็จมีช่วงเวลา มี Timing ของมัน มันไม่รอใครทั้งสิ้นในโลกนี้

นี่คือ 6 บทเรียนที่ทำไมเราต้องวิ่งใส่ความกลัว ...ผมขอสรุปสั้นๆ ว่า “ความกลัว = ความสำเร็จ”


Comment