6 กฎทองทางการเงิน ที่จะทำให้คุณรวยแบบไม่รู้จบ

 05 ก.ค. 2567 07:48 น.    เข้าชม 428    Entrepreneurship
6 กฎทองทางการเงิน  ที่จะทำให้คุณรวยแบบไม่รู้จบ

6 กฎทองทางการเงิน  ที่จะทำให้คุณรวยแบบไม่รู้จบ

กฎทองทางการเงิน

ข้อที่หนึ่ง

อย่าใช้จ่าย

มากกว่าเงินที่หาได้

.

มันเป็นกฏที่สุดแสนง่ายได้

แต่คนส่วนใหญ่มักทำไม่ได้

คนส่วนใหญ่ชอบที่จะ

ใช้จ่ายมากกว่าเงินที่ตนเอง

หาได้

.

แล้วอะไรตามมาล่ะ

ก็การเป็นหนี้ไงล่ะ

.

ดังนั้นหากคุณสามารถ

ทำตามกฎทองทางการเงิน

ข้อที่หนึ่งได้

คุณจะกลายเป็น

คนมั่งคั่งได้แบบง่ายๆ

.

กฎทองทางการเงิน

ข้อที่หนึ่งนี้

ถือว่าเป็น

กฎพื้นฐานทางด้านการเงิน

เลยทีเดียว

 

ถ้าเปรียบกับการสร้างบ้าน

มันก็คือการสร้างฐานราก

ของนิสัยในการสร้างความ

มั่งคั่ง ร่ำรวยเลยทีเดียว

 

มาดูกฎข้อที่สอง

 

กฎทองทางการเงิน

ข้อที่สอง

คือ ใช้เงินทำงาน

.

คุณจะเริ่มกดปุ่ม

การสร้างความมั่งคั่ง

ด้วยการลงทุน

อย่างน้อย 10%

ของเงินรายได้ที่คุณหามาได้

.

โดยเงินส่วนนี้คือ

เงินต้องห้าม

คือห้ามเอาไปทำอย่างอื่น

เงินส่วนนี้ มีไว้เพื่อ

ทำหน้าที่เงินต่อเงิน

หรือใช้เงินให้ทำงาน

ให้เรา

.

แต่ถ้าไม่สามารถจัดสรร

ได้ถึง 10% ล่ะ

ก็อาจจะเริ่มต้น

จากเงินส่วนเกิน

ที่ได้จากการปฏิบัติตาม

กฎข้อที่หนึ่ง

.

ซึ่งมันอาจจะน้อยกว่า

10% ของรายได้

แต่ถ้าคุณทำต่อเนื่อง

คุณจะมีเงินลงทุน

มากขึ้นเรื่อยๆ

จนในที่สุดจะมากกว่า

10% ของรายได้

.

โดยมันจะโต

ด้วยผลตอบแทน

ทั้งในรูปเงินปันผล

และด้วยพลังของ

ดอกเบี้ยทบต้น

.

อัลเบิรต์ ไอนสไตน์

ได้กล่าวไว้ว่า

“สิ่งมหัศจรรย์

อันดับแปดของโลก

ก็คือ พลังของดอกเบี้ยทบต้น

ใครที่เข้าใจมัน จะรวยไม่รู้จบ”

.

หรือแม้กระทั่ง วอร์เรน บัฟเฟต์

ได้พูดถึงพลังของดอกเบี้ยทบต้น

ในเชิงอุปมาอุปมัยว่า

“ดอกเบี้ยทบต้น เปรียบได้ดั่ง

ก้อนหิมะ หรือ Snall Ball

ที่ค่อยกลิ้งลงมาจาก

ภูเขาหิมะ จากก้อนเล็กๆ

มันจะค่อยขยายเป็นก้อนที่ใหญ่ขึ้น

และใหญ่ขึ้น จนมีขนาดมหึมา

ตามระยะทางที่มาเคลื่อนที่ลงมา

.

และคุณเชื่อไหมครับว่า

ดอกเบี้ยทบต้น หรือ

Compound Interest

คือกลยุทธ์สำคัญในการสร้าง

ความมั่งคั่งของ warren buffet

.

ซึ่งแน่นอนมันไม่ได้

สงวนลิขสิทธิ์ไว้เฉพาะ

Warren Buffet

เมื่อเป็นกลยุทธ์ที่ใครๆ

ก็นำมาใช้ได้

.

ดังนั้นหากคุณ

ยังไม่เริ่มการใช้

พลังของดอกเบี้ยทบต้น

ก็เริ่มซะตอนนี้เลยครับ

.

กฎทองทางการเงิน

ข้อที่สาม

คือ หลีกเลี่ยง

นิสัยเงินเฟ้อ

.

คนส่วนใหญ่

เมื่อมีรายได้มากขึ้น

รายจ่ายก็มักจะมากขึ้น

เพราะเมื่อเงินรายได้มากขึ้น

ก็มักจะเกิดความอยากได้อยากมี

มากขึ้น

.

พฤติกรรมข้างต้นเรียกว่า

“นิสัยเงินเฟ้อ”

.

สาเหตุของนิสัยเงินเฟ้อ

ส่วนใหญ่มักจะมาจาก

การเปรียบเทียบกับ

คนอื่นๆ เช่น

“เพื่อนฉันมี

ฉันก็ต้องมี

เพราะถ้าไม่มี

ฉันจะน้อยหน้า”

.

ดังนั้นโปรด

หยุดเปรียบเทียบ

.

นิสัยเงินเฟ้อ

ทำให้คนส่วนใหญ่

มีเงินไม่พอใช้

หรือไม่ ก็ชักหน้า

ไม่ถึงหลัง

.

คุณไม่จำเป็นต้องใช้

กระเป๋า แบรนด์เนม

รองเท้า แบรนด์เนม

และอื่นๆ ที่เป็น

แบรนด์เนม

.

คุณไม่จำเป็นต้อง

Upgrade โทรศัพท์

หรืออุปกรณ์เทคโนโลยี

ของคุณทุกปี

ถ้าหากไม่มีความจำเป็น

.

คุณไม่จำเป็นจะต้อง

มีพฤติกรรมการใช้จ่ายเงิน

เหมือนคนอื่นๆ

.

แต่คุณจำเป็นจะต้อง

ใช้จ่ายเงินของคุณ

อย่างมีวัตถุประสงค์

ที่จำเป็น หรือ เหมาะสม

ที่จะไม่นำไปสู่การสร้าง

“นิสัยเงินเฟ้อ”

.

กฎทองทางการเงิน

ข้อที่สี่

คือ มันคือความเสี่ยง

หากคุณมีรายได้เพียง

แหล่งเดียว

.

ในโลกที่เต็มไปด้วย

ความไม่แน่นอน

และเปี่ยมไปด้วยความเสี่ยง

.

วันดี คืนดี โควิด

ก็ระบาดไปทั่วโลก

.

วันดี คืนดี

AI อาจจะทำให้คุณ

ตกงาน

.

วันดี คืนดี

สงครามอีกในซีกโลก

หนึ่ง ทำให้บริษัท

คุณขายของไม่ได้

.

และอีกหลายๆ

วันดี คืนดี

ที่มันไม่ค่อยดีต่อชีวิต

ที่จะมาเยือนเรา

ได้ในทุกขณะจิต

.

นี่คือความไม่แน่นอน

และความเสี่ยงที่มี

ต่อศักยภาพในการ

สร้างรายได้ของคุณ

.

ดังนั้นรายได้แหล่งเดียว

จึงถือว่าเป็นเรื่องที่

เสี่ยงมากๆ สำหรับ

คนในยุคนี้

.

ดังนั้น คุณต้องมี

แหล่งรายได้อย่างน้อย

สองแหล่ง

.

Warren Buffet

ได้กล่าวไว้ว่า

“Don’t put

All your eggs

In one basket”

.

ซึ่งมีความหมาย

แปลแบบตรงตัวว่า

“อย่าเอาไข่

ที่คุณมี

ทั้งหมดไปใส่ไว้ใน

ตะกร้าใบเดียว”

.

เพราะถ้าตะกร้านี้

ตก ไข่ทั้งหมดก็จะแตก

.

ตะกร้าก็เปรียบเหมือน

แหล่งรายได้

.

ไข่ก็อาจจะเปรียบได้

กับเงินหรือพลังกาย

พลังใจ พลังสมอง

ที่เราเอาไปลงทุน

ในตะกร้าใบนั้น

ที่เปรียบได้กับ

แหล่งรายได้

.

ดังนั้นคุณจึงจำเป็น

ต้องมีอย่างน้อย

สองตะกร้า หรือ

สองแหล่งรายได้

.

เพราะถ้าใบหนึ่ง

ตกแตก ก็ยังมี

อีกใบที่ยังสร้างรายได้

ให้คุณ

.

แต่ถ้าคุณมีกำลัง

หรือมีเวลาพอ

ที่จะบริหารจัดการ

คุณก็อาจจะมีมากกว่า

สองตะกร้าก็ได้

.

กฎทองทางการเงิน

ข้อที่ห้า

คือ ต้องมีเงินสำรอง

รองรับยามฉุกเฉิน

.

ดังที่กล่าวไปข้างต้น

ในกฎทองทางการเงิน

ข้อที่สี่ว่า

.

เรา ซึ่งหมายถึง คุณ, ผม

และผู้คนในโลกใบกลมๆ ใบนี้

กำลังมีชีวิตอยู่ท่ามกลาง

ความไม่แน่นอน และ

ความเสี่ยง ที่จะเกิดอะไรขึ้น

ทั้งดี และร้าย ในทุกขณะจิต

.

หรือแม้ในชีวิตประจำวัน

ก็อาจจะมีเรื่องราวที่ไม่คาดคิด

มาก่อนเกิดขึ้น

ซึ่งทำให้เราต้องใช้จ่ายเงิน

เช่น คนในครอบครัวป่วย

หรือ รถเสีย หรือ ซ่อมแซม

บ้านที่ชำรุด และอื่นๆ

.

ดังนั้นคุณจำเป็นต้องมีเงิน

สำรองเอาไว้ รองรับ

เมื่อสถานการณ์ฉุกเฉินต่างๆ

และเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด

มาก่อนไว้เสมอ

.

เพราะถ้าไม่มีเงินสำรอง

สิ่งที่จะเกิดขึ้น ก็คือ

การไปกู้หนึ้ ยืมสิน

เพื่อมารองรับสิ่งต่างๆ

ที่กล่าวไปข้างต้น

.

สำหรับเงินสำรอง

นี้ ควรจะมีเท่าไหร่ดีล่ะ

.

คุณควรจะมีเงินสำรอง

ประมาณสามเท่า

ของเงินค่าใช้จ่ายรายเดือน

.

หรือพูดง่ายๆ สามารถมี

ชีวิตประจำวันได้

ไปสามเดือน ถึงแม้

จะไม่มีรายได้อะไร

เข้ามาเลย

.

ก่อนที่จะไปสู่

กฎทองทางการเงิน

ข้อที่ 6

ผมขอตอกย้ำอีกครั้งว่า

เงินสำรอง นี้ เป็นอีกก้อนหนึ่ง

ที่เป็นเงินต้องห้าม

คือไม่ต้องไปยุ่งกับมัน

หากไม่มีสถานการณ์อะไร

ที่จะต้องใช้มัน

อาจจะเก็บไว้ในธนาคาร

กินดอกเบี้ยทบต้นไป

.

และ กฏทองทางเงิน

ข้อสุดท้าย ก็คือ

.

กฎทองทางการเงินข้อที่หก

อย่าหยุดเติมความรู้

เรื่องการเงิน

.

ท่านเคยได้ยิน

สุภาษิตนี้ไหมครับ

.

สุภาษิตนี้ก็คือ

“Knowledge is power”

หรือ

“ความรู้ คือ อำนาจ”

.

ในทำนองเดียวกัน

“ความรู้ทางด้านเงิน

ก็คือ อำนาจทางการเงิน”

.

เมื่อคุณมีความรู้ทางด้านการเงิน

คุณก็จะมีอำนาจทางด้านการเงิน

หรือมีอำนาจที่จะทำให้คุณมั่งคั่ง

.

อย่างไรก็ตาม ความรู้ทางด้านการเงิน

ในโลกยุคดิจิทัล มีเรื่องใหม่ๆ

เกิดขึ้นมาตลอดเวลา

และที่สำคัญความรู้เดิมๆ

ทางด้านการเงิน

บางความรู้ อาจจะล้าสมัย

อาจจะตกยุค

.

ด้วยสาเหตุนี้เอง

คุณจึงจำเป็นที่จะต้อง

Update

ความรู้ทางด้านการเงินอยู่เสมอ

.

นอกจากตัวคุณเอง แล้ว

คุณควรถ่ายทอดความรู้เรื่อง

การเงินที่คุณได้เรียนรู้

และ Update

ให้กับคนในครอบครัว

และคนที่คุณรักด้วย

เพราะนอกจาก

จะทำให้คุณมั่งคั่งแล้ว

คนรอบๆ ตัวคุณ

ก็จะกลายเป็นคนมั่งคั่ง

ตามไปด้วย

ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ดีใช่ไหมครับ

.

นี่คือ 6 กฎทองทางการเงิน

ที่จะทำให้คุณรวยแบบไม่รู้จบครับ

.

อย่างไรก็ตามนะครับ

ในโลกความเป็นจริง

อาจจะมีบางคน

ที่สามารถทำได้ทั้ง 6 กฎ

.

อาจจะมีบางคน

ที่สามารถทำได้บางกฎ

.

และอาจจะมีบางคน

จะด้วยเหตุผลใดก็ตามแต่

ที่อาจจะทำไม่ได้สักกฎเลย

.

ข้อแนะนำของผมคือ

ขอให้ทุกท่านลองทบทวน

ตนเองว่าเป็นอย่างไร

.

โดยเฉพาะท่านที่ทำได้บางกฎ

หรือทำไม่ได้เลยสักกฎ

.

ถ้าหากต้องการเริ่มต้นใหม่

ด้วยการปฏิบัติตาม 6 กฎทอง

ทางการเงิน ก็ย่อมทำได้เสมอ

แต่อาจจะยาก หรือ ง่าย

ก็แล้วแต่สถานการณ์ของแต่ละคน

.

ทุกอย่างเริ่มต้นใหม่ได้

หรือเปลี่ยนแปลงได้

หากเราต้องการเปลี่ยนแปลง

.

ผมขอสรุปทั้ง 6 กฎอีกครั้งดังนี้

กฎทองการเงินข้อที่หนึ่ง

อย่าใช้จ่ายมากกว่าเงินที่หาได้

.

กฎทองการเงินข้อที่สอง

คือ ใช้เงินทำงาน

.

กฎทองการเงินข้อที่สาม

คือ หลีกเลี่ยงนิสัยเงินเฟ้อ

.

กฎทองการเงินข้อที่สี่

คือ มันคือความเสี่ยง

หากคุณมีรายได้แหล่งเดียว

.

กฎทองการเงินข้อที่ห้า

คือ ต้องมีเงินสำรอง

ไว้ยามฉุกเฉิน

.

และ กฎทองการเงินข้อที่หก

อย่าหยุดเติมความรู้เรื่องการเงิน

 

 


Comment