น้อง AI ปัจจัยที่ 6

น้องคนสุดท้องของปัจจัยพื้นฐานของชีวิต

ที่จะช่วยให้ชีวิตเราดีขึ้น และสร้างรายได้งามๆ ให้กับเรา

หากเราทำความรู้จัก และเรียนรู้ที่จะใช้มัน

.

ย้อนหลังไปเมื่อ 30 ปีที่แล้ว

ตอนผมอายุประมาณ 27-28 ปี

เป็นช่วงเวลาที่โทรศัพท์มือถือ

เพิ่งเข้ามาในเมืองไทย

มันให้ผู้คนตื่นตะลึงไปกับ

ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีไร้สาย

.

เพราะก่อนหน้านี้ ก็จะมีแค่โทรศัพท์ตามบ้าน กับ

โทรศัพท์สาธารณะที่เป็นตู้หยอดเหรียญ

แบบว่า โทรทางไกลครั้งหนึ่ง

ก็ต้องเตรียมเหรียญไปหยอด

ให้เพียงพอกับเวลาที่ต้องการโทร

.

ถ้าจำไม่ผิดโทรศัพท์มือถือ เครื่องแรก

ที่เข้ามาในเมืองไทย ที่ผมเห็นก็คือ

โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ Ericson

ซึ่งขนาดของมัน

ก็ประมาณกระเป๋าเดินทางใบเล็กๆ

ซึ่งมันน่าจะเรียกว่า

โทรศัพท์มือหิ้ว มากกว่า โทรศัพท์มือถือ

.

ส่วนสนนราคาของมันก็แพงลิบลิ่ว

นั่นคือ ประมาณ แสนสี่หมื่นกว่าบาท

ถ้าผมจำไม่ผิด

.

โอ้แม้เจ้ามันเป็นสิ่งที่ไกลเกินฝัน

สำหรับผู้คนทั่วไป

และมนุษย์เดินดินกินชายสี่หมี่เกี๊ยวอย่างผม

ที่จะคว้ามันมาเป็นเจ้าของ

.

แล้วเป็นไงล่ะ

ปัจจุบัน จากขนาดใหญ่บิ๊กบึ้ม

และราคาหลักแสน

แปรเปลี่ยนมาเป็น

มือถือแบบ Smart phone ขนาดเหมาะมือ

ราคามีตั้งแต่หลักพัน ถึง หลักหมื่น

แต่คุณภาพสุดล้ำ

กว่ามือถือ ที่ต้องใช้มือหิ้ว ยุคแรก

แบบฟ้ากับเหว

.

และที่สำคัญ

โทรศัพท์มือถือสุดล้ำในยุคปัจจุบัน

ได้กลายเป็นปัจจัยที่ห้า

เพิ่มเติมจากปัจจัยสี่ที่เป็นปัจจัยพื้นฐาน

แบบว่า ตอนนี้ เด็กนักเรียนมีมือถือกันแทบทุกคน

.

นอกจากนั้น โทรศัพท์มือถือ

ยังเป็นเครื่องมือในการสร้างรายได้

ของผู้คนมากมายที่เข้าใจเทคโนโลยี

และใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีแหล่านั้น

.

ที่เล่ามายืดยาวข้างบน

ผมพยายามจะบอกอะไรเพื่อนๆ ครับ

.

อยากรู้ไหมครับ

.

สิ่งที่ผมกำลังจะบอกเพื่อนๆ มี 2 ข้อ คือ

.

ข้อที่หนึ่ง

.

ใครที่เข้าใจเทคโนโลยี และรู้จักเอามาประยุกต์ใช้

ก็จะทำให้ชีวิตขึ้น และมีโอกาสสร้างรายได้

สร้างเงินทองได้เร็ว ได้มากกว่าคนอื่นๆ

ยกตัวอย่างเช่น การใช้โทรศัพท์มือถือ

.

แล้ว ข้อสอง ล่ะคือ อะไร

.

ข้อสองเป็นเรื่องที่สำคัญสุดๆ และมันก็คือ

.

ขอให้เพื่อนๆ โปรดจงทราบไว้ว่า

ปัจจัยที่ห้า ซึ่งก็คือ โทรศัพท์มือถือ

ที่เป็นปัจจัยขั้นพื้นฐานล่าสุด

หรือปัจจัยน้องคนเล็กสุด

ของชีวิตมนุษย์ในยุคดิจิทัล

จะไม่ได้เป็นปัจจัยพื้นฐานน้องคนสุดท้องแล้ว

.

เนื่องจากตอนนี้ มีน้องคนสุดท้องคนล่าสุด

เพิ่งคลอดออกมา นั่นคือ น้องคนสุดท้อง

ที่มีนามว่า “น้องเอไอ” หรือ “AI”

ชื่อเต็มๆ ของน้องเขาก็คือ “น้องปัญญาประดิษฐ์”

และมีชื่อภาษาอังกฤษว่า “Artificial Intelligence”

.

ย้อนหลังไปเมื่อ 4-5 ปีก่อน ดูเหมือนว่า

AI จะเป็นเรื่องไกลตัว เป็นเรื่องขององค์กรใหญ่

ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ หรือ ภาคธุรกิจ

ที่มีเงินมีทอง มีงบประมาณที่จะสรรหาเทคโนโลยี

เหล่านี้ มาอยู่ในครอบครอง และใช้ประโยชน์จากมัน

เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน

.

เผลอแปปเดียว

ณ ตอนนี้ ดูเหมือนว่า AI หรือ ระบบปัญญาประดิษฐ์

จะกลายเป็นเรื่องปกติ และใกล้ตัวเรามาก

จนผมขอยกให้เป็น ปัจจัยที่หก

หรือน้องคนสุดท้องคนล่าสุดของปัจจัยขั้นพื้นฐาน

ของชีวิตมนุษย์ในยุคดิจิทัล

.

AI เข้ามาเกี่ยวข้องกับเรา ทั้งในแบบที่เราไม่รู้ตัว

และในแบบที่เราต้องคลุกคลีตีโมงกับเขาในทุกๆ วัน

.

ในส่วนตัวของผม AI เข้ามาเกี่ยวข้องแบบตรงๆ กับผม

ในเรื่องการสร้าง Content เพราะหนึ่งอาชีพที่ผมใช้เลี้ยงตัว

และบริษัท ก็คือ การเป็น Content Creator

.

ล่าสุด ผมนำความรู้ในเรื่องเกี่ยวกับสมอง

หรือ Neuro Science ที่ผมมีอยู่

มาใช้ในการสั่งให้

AI มาช่วยสร้างรูปประกอบบทความของผม

ตาม Key Word ที่ผมกำหนด

.

รูปที่ AI สร้างให้ บทความของผม

ที่มีชื่อบทความว่า

“ภาพความสำเร็จที่ชัดเจนที่อยู่ในหัวของท่าน

จะพาท่านไปหาคนที่ประสบความสำเร็จ

และจะทำให้ท่านประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น ยิ่งขึ้น”

ตามลิงค์ข้างล่างนี้

https://www.facebook.com/arthasith/posts/10159813569122371

.

ทำให้เกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

กับบทความของผมนั้นคือ

มีคนกด Like บทความของผม กว่า 1,200 คน

มี Conment กว่า 75 คอมเม้นต์

และมีการแชร์กว่า 1,200 ครั้ง

.

ตอนนี้ ผมกำลังเรียนรู้

การใช้ AI ในการสร้างคลิปวีดีโอสั้นๆ อยู่

ก็มาติดตามนะครับ ว่าคลิปวีดีโอสั้นๆ

ที่ผมใช้ AI สร้างมันจะเป็นอย่างไร

.

ข้อสรุปของบทความนี้ ก็คือ ตอนนี้

น้อง AI หรือ น้องปัญญาประดิษฐ์

ที่มีชื่อภาษาอังกฤษว่า

“น้อง Artificial Intelligence”

ได้กลายเป็นป้จจัยที่หก ในชีวิตของผมแล้ว

.

ผมเชื่อว่า น้อง AI จะช่วยสร้างความมั่งคั่งให้ผมแน่นอน

.

แล้วเพื่อนๆ ล่ะครับ รับน้อง AI มาเป็นน้องคนสุดท้องหรือยัง